03 มี.ค.
ใช่เลย … เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ว่า Apple จะเปิดตัว iPad 2 ครับ … แล้วจากงานนี้เราได้ข้อมูลอะไรกันมาบ้าง?
ขอขอบคุณสปอนเซอร์ผู้น่ารักที่ให้การสนับสนุนบล็อกนานาสาระกับนายกาฝากเอาไว้ดังนี้นะครับ
- อเด็คโก้จัดฟรีสัมมนาสำหรับผู้ที่กำลังมองหางานที่ต้องการเพิ่มทักษะการ เขียน Resume โดยสอนเทคนิคเพื่อให้ Resumeเป็นที่ดึงดูดต่อบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ และรู้เทคนิคการสัมภาษณ์งาน เตรียมพร้อม และฝึกซ้อมการสัมภาษณ์งานในทุกแง่มุมก่อนเข้าสู่สถานการณ์จริง โดยฟรีสัมมนาจะจัดขึ้นทุกเดือน พิเศษสำหรับสมาชิกอเด็คโก้เท่านั้น อ่านรายละเอียดที่นี่เลย
- สำหรับท่านที่สนใจอยากได้ Dell Streak 5 นิ้ว ก็สามารถไปสอยมาเป็นเจ้าของได้ในราคา 19,900 บาทนะครับ หาซื้อได้ตาม Power Buy และร้านค้าในเครือ Value Systems ครับ
- ลูกค้า i-mobile 3GX สามารถที่จะสมัครแพ็กเกจ Unlimited Package 650 บาท/เดือน (ไม่รวม VAT) ซึ่งให้คุณใช้งาน BlackBerry Service ได้ไม่จำกัด, เล่นอินเทอร์เน็ต 3G ไม่จำกัด และ โทรฟรีไม่จำกัด บนโครงข่าย TOT3G (นอกพื้นที่ โทรผ่าน Roaming คิด 1.50 บาท/นาที) ส่วน SMS ครั้งละ 1 บาท รายละเอียด อ่านที่นี่เลย
มันมีกระแสข่าวลือมาจากตอนที่หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังนาม National Enquirer ไปชักภาพ Steve Jobs กำลังออกจากศูนย์มะเร็งสแตนฟอร์ดเมื่อเร็วๆ นี้ เลยมีการร่ำลือกันว่า Steve Jobs จะอยู่ได้อีกแค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น (ทั้งๆ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เฮียแกเพิ่งไปนั่งขนาบข้างประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ มาหมาดๆ)
งวดนี้คงเพื่อสยบข่าวลือ Steve Jobs เลยออกมานำเสนอด้วยตัวเองซะเลย ทั้งๆ ที่อยู่ในระหว่างลาป่วยแบบไม่มีกำหนด
ก็หวังว่าการออกมาของ Steve Jobs งวดนี้ คงช่วยระงับกระแสข่าวลือได้ไม่มากก็น้อยละ
iPad 2 มาแล้วจ้า
แน่นอนว่า พระเอกของงานนี้คงหนีไม่พ้น iPad 2 ที่จะมาเปิดตัว และมันก็ชื่อว่า iPad 2 จริงๆ นั่นแหละ (?!?) สำหรับคนที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าจะมีอะไรใหม่ๆ บ้าง ผมว่ามันก็น่าจะผิดหวังเล็กน้อยครับ เพราะว่าไม่มีอะไรที่เซอร์ไพรส์ หรืออะไรที่มัน ว้าว! เลย ในความเห็นของผม
พิจารณาจากสเปกคร่าวๆ ด้านล่างครับ เทียบ iPad กับ iPad 2 (ที่มา: Engadget)
ต้องบอกเลยว่า Apple เสียความเป็นเอกลักษณ์ในด้านของการปิดข่าวไปเยอะมากในช่วงปีสองปีมานี้ เพราะหลายสำนักข่าวเขาคาดการณ์ถูกกันล่วงหน้าเยอะแยะ แถมมีภาพหลุดนั่นนี่มาตลาด
และครั้งนี้ก็เช่นกันครับ iPad 2 ก็ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติม และหลายๆ ส่วนที่ไม่ได้ปรับปรุงเพิ่ม ตามที่หลายๆ สำนักคาดการณ์เอาไว้ ดังนี้
- CPU ใช้ Apple A5 1GHz ซึ่งเป็น Dual-core ตามที่ทุกคน (รวมถึงผมเอง) คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไรเลย เพราะว่ามันต้องเอามาชนกับ Android Tablet อยู่แล้ว
- หน้าจอ ยังคงเป็นขนาด 9.6 นิ้ว ความละเอียด 1024×768 เหมือนเดิม ไม่ได้เป็น Retina Display หรือมีความละเอียดสูงขึ้นแต่อย่างใด ก็เป็นไปตามข่าวที่ลือกันอีกนั่นแหละ ซึ่ง Crunch Gear ได้เคยอธิบายเอาไว้แล้วว่าทำไมถึงทำไม่ได้
- กราฟิก กับ แรม … จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผย แต่เชื่อว่าอีกไม่นานหลังจากที่ iPad 2 ออกวางจำหน่าย iFixIt คงเอาไปชำแหละแล้วเอามาบอกเราแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมขอเดาว่า แรมน่าจะ 1GB ครับ
- ความจุยังคงเท่าเดิมคือ 16GB/32GB/64GB คาดว่าคงเพราะยังไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องการเนื้อที่เพิ่ม เพราะ Content ต่างๆ ยังมีขนาดไฟล์ไม่ใหญ่มาก
- กล้องหน้าและกล้องหลัง เป็นไปตามคาดว่ามีแน่ๆ แหงล่ะ ก็ Apple พยายามเสนอขาย FaceTime ซะขนาดนั้น ตั้งข้อสังเกตว่า กล้องหน้าแค่ความละเอียด VGA เท่านั้น (3 แสนพิกเซล) ส่วนกล้องหลังก็เน้นไปที่การถ่ายวิดีโอ HD 720p ไม่ใช่ถ่ายภาพนิ่ง เชื่อว่าคุณภาพในการถ่ายภาพนิ่งก็ประมาณ iPod Touch 4th Gen ครับ
- Gyroscope เป็นไปตามคาดว่าต้องมี เพราะ iPhone 4 กับ iPod Touch 4th Gen ก็มีแล้ว iPad จะไม่มีได้ยังไงกัน
- แน่นอนว่า แบตเตอรี่ยังอึด 10 ชั่วโมงเหมือนเดิม แต่โม้ไว้ว่าหาก Standby เนี่ย อยู่ได้เป็นเดือนเลย
- บางและเบาขึ้น … บางกว่าเดิม 33% … รุ่น WiFi เบากว่าเดิมไม่ถึงขีด เชื่อว่าคงไม่มีใครทันได้สังเกตถึงความต่าง (แต่ความรู้สึกอาจมี เพราะเราเห็นว่ามันบางขึ้น) แต่รุ่น 3G เนี่ยเห็นชัดเพราะเบากว่าเดิมเป็นขีด
ที่เปิดตัวพร้อมกันกับ iPad 2 ก็คือโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ iMovie กับโปรแกรมดนตรี Garage Band ครับ ขายแยกต่างหากตัวละ $4.99 ถือว่าราคาไม่แพง แถมเท่าที่ดูมันทำอะไรได้เยอะแยะมากมายบน iPad 2 เลยแหละ
เท่าที่อ่านจากข่าว ทั้ง iMovie และ Garage Band นั้นเป็นเวอร์ชันสำหรับ iPad แสดงว่าน่าจะใช้บน iPad รุ่นแรกได้ด้วย … งวดนี้น้องชายผมมีของเล่นอีกแล้ว (หมายถึง Garage Band นะครับ เพราะ iMovie คงไร้ค่าบน iPad รุ่นแรกที่ไม่มีกล้องวิดีโอ)
iOS 4.3
iPad 2 มาพร้อมกับ iOS 4.3 ครับ และแม้ว่า Apple จะปล่อย iOS 4.3 มาให้พวก Developer ได้ยลกันแล้วถึง Beta 3 ก็ตาม แต่ก็ต้องเอามาโม้กันเต็มๆ ในงานนี้อีกครับ … คุณสมบัติก็อย่างที่รู้ๆ กันครับ
- Safari Performance ดีขึ้น
- มี iTunes Home Sharing
- ปรับปรุงคุณสมบัติ AirPlay
- ให้เราเลือกได้แล้วว่าสวิตช์บน iPad จะเอาเป็น Mute หรือ Rotation Lock (อันนี้คงเพราะโดนคนบ่นเยอะ)
Accessories ของ iPad 2
นอกจาก iPad 2 จะมาเปิดตัวในงานแล้ว Steve Jobs ก็ยังได้ถือโอกาสขาย Accessories หรือไอเท็มประดับบารมีไปด้วยพร้อมๆ กันเลยครับ
iPad 2 Case สุดแจ่ม
บอกตรงๆ ว่า Apple Case สำหรับ iPad รุ่นแรก ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจทำให้รู้สึกอยากซื้อ แต่เจ้า Case สำหรับ iPad 2 ที่เรียกว่า Smart cover (แบบที่เป็นโพลีเมอร์ราคา $39 ส่วนแบบหนังราคา $69) เนี่ย มันแหล่มเป็ดมากทีเดียว
คือ มันใช้แม่เหล็กในการยึดติดกับ iPad 2 เลย ไม่ต้องยึดน็อตอะไร แถมยังทำงานร่วมกับ iPad 2 ได้อีก โดยการเปิดหน้าจอให้เวลาเปิดฝาปิดขึ้น และปิดหน้าจอ iPad 2 เมื่อปิดฝาปิด นอกจากนี้ยังพับเป็นขาตั้งได้ด้วย … โอวววว … ชาบูๆ
HDMI Connector
ข้อจำกัดของ Video Output Connector ของ iPad แบบเดิมอยุ่ที่ว่า มันสนับสนุนการใช้งานกับ App ของ Apple เฉพาะวิดีโอเท่านั้น แต่งวดนี้มันทำงานเป็น Mirror แล้ว สามารถใช้งานร่วมกับ App อื่นๆ ได้ด้วย และรองรับการหมุนหน้าจอ … ที่สำคัญคือ สนนราคาอยู่ที่ $39 ถือว่าไม่แพงมาก
กำหนดวางจำหน่าย iPad 2
เชื่อว่ารอกันมาตั้งนานเนี่ย ทุกท่านคงอยากรู้ใจจะขาดว่า แล้วจะวางขายเมื่อไหร่ … คำตอบคือ 11 มีนาคม นี้ครับ … เฮ้ย! เร็วป้าด … และอีก 26 ประเทศ จะได้ไปวางจำหน่ายในวันที่ 25 มีนาคม … แน่นอน ไม่มีประเทศไทยเช่นเคย
สนนราคาก็เริ่มต้นที่ $499 สำหรับ 16GB WiFi และไปจบที่ $829 สำหรับ 64GB 3G+WiFi และวางขายมันทั้ง AT&T กับ Verizon ตามคาดเลยครับ (AT&T สีดำ Verizon สีขาว?? แล้ว iPhone 4 สีขาวที่ว่าจะออกล่ะฟะ?)
แอบมีแขวะกันบ้าง
ในบัตรเชิญมางานนี้ที่ Apple ส่งไปยังสื่อต่างๆ เขาเขียนเอาไว้ว่า “Come see what 2011 will be the year of”
แต่ที่เห็นแน่ๆ คือ มีการกัดแขวะกันเกิดขึ้น ประเดิมด้วยสไลด์ “2011: Year of the copycats?” หรือแปลเป็นไทยว่า “2011: ปีแห่งการลอกแบบ?” แล้วมีโลโก้ยี่ห้อต่างๆ ตั้งแต่ Honeycomb, Samsung, HP, BlackBerry และ Motorola
แถมมีการ Quote คำพูดของ CEO ของ Samsung แบบจงใจให้ผิด โดยแก้จาก “As you heard, hour sell-in was quite aggressive… around two million. In terms of sell-out, we believe it was quite smooth” เป็น “As you heard, hour sell-in was quite aggressive… around two million. In terms of sell-out, we believe it was quite small” คือ เปลี่ยนจาก ขายได้อย่างราบรื่น เป็น ขายได้ค่อนข้างน้อย ไปซะงั้นเลย
ตามมาด้วยการแขวะต่อว่า Honeycomb มี App แค่ร้อยเดียว ส่วน iPad น่ะ มี 65,000 แล้วนะเฟ้ย … อ้าว ชักดราม่า ฮาฮา … แต่ในมุมมองผมแล้ว นี่แสดงให้เห็นว่า Apple ไม่ต้องการให้ Honeycomb แจ้งเกิดได้ง่ายๆ เลย หรือก็คือ มองว่า Honeycomb น่าจะเป็นคู่แข่งที่จำต้องรีบสกัดดาวรุ่งเสียแต่เนิ่นๆ … ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกครับ เพราะดูจากอัตราการเติบโตของอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการ Android ได้
ในจุดนี้ผมว่า Apple ไม่ได้มอง Samsung, HP, BlackBerry หรือ Motorola เป็นคู่แข่งมาก … แต่มองว่า Android ของ Google ต่างหากคือคู่แข่ง
ครับ และปิดท้ายด้วยการประกาศย้ำอีกครั้งว่า ปี 2011 นี่แหละ เป็นปีของ iPad
จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยสถิติที่อวดสรรพคุณต่างๆ ของ iPhone และ iPad ตามมาตรฐานเฮีย Steve Jobs แกนั่นแหละครับ คิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้าใครอยากอ่านต่อ ก็ไปอ่านได้ที่ Engadget ครับ
ส่วนบล็อกของผม ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ละครับ
thanks; http://kafaak.wordpress.com/2011/03/03/ipad2-what-do-we-get/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น